เงิน 4 ด้านงาน 4 ประเภท
เงิน 4 ด้านงาน 4 ประเภท
ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่ม หนึ่งที่ชื่อว่า พ่อสอนลูกรวย เรื่องเกี่ยวกับเงินสี่ด้าน ของคุณ Robert T. Kiyosaki ซึ่งเขาได้กล่าวไว้ว่า ธุรกิจต่างหรืองานต่างๆ บนโลกใบนี้เนียมันถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกัน
และวันนี้ผมก็จะมาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับหัวข้อนี้
จากรูปเราจะเห็นได้ว่างานนั้นถูกแบ่งออกเป็น ซ้าย และ ขวา ข้างซ้ายนั้นคืองานที่ใช้ แรงแลกกับเงินเราเป็นสาเหตุของรายได้ ส่วนด้นขวา นั้นเราใช้ระบบหรือเงินเป็นสาเหตุของรายได้
ด้านซ้าย ( ใช้เวลา แลก เงิน , ขาดอิสรภาพทางการเงินและเวลา )
1 E (Employee)หรือ ลูกจ้าง
· รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน
· รายได้ตามตำแหน่งงานที่ได้รับมอบหมาย
· นายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและเงินเดือนให้คุณ
· ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ ตอกบัตร
· ตกงานเท่ากับล้มละลาย (ตกงาน 3 เดือน ไม่ต่างจากคนล้มละลาย)
· อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ฯลฯ
จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผม เป็น E มา ก็ 7 ปี สิ่งที่เจอคือ
ข้อดี
- สบายใจเพราะไม่ต้องมากังวลกับเรื่องของการลงทุนมากนัก
- ทำงานไปวันๆตามหน้าที่ที่ได้รับมาโดยไม่ต้องสนใจอะไรมาก
- มีงานก็ทำไม่มีงานก็นั่งๆนอนๆ ลอเงินเดือนไปวันๆ
ข้อเสีย
- ความมั่นคงไม่แน่นอนถ้าวันไดเกิดผู้ใหญ่ไม่พอใจ ก็โดนออกงาน
- เงินเดือนต่ำโอกาสที่จะมีชีวิตอย่างที่ฝันคงยาก
- ไม่มีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัว
- เขาสั่งอะไรก็ต้องทำ แม้กระทั้งสั่งให้ไปทำงานที่เสี่ยงต่อชีวิตก็ต้องไป
- เงินเดือนขึ้นบ่างไม่ขึ้นบ่าง
- อื่นๆอีกมากมาย
สรูป ผมว่า E มันก็ดีสำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้าฝันอยากมีอนาคตที่ดีและมั่นคง ผมไม่แนะนำ
2 S (Self-employed) หรือ ทำธุรกิจส่วนตัว เช่น ร้านอาหารตามสั่ง ชายสี่หมีเกี้ยว ร้านขายปลีก
- ขายเวลาแลกกับเงิน จ้างตัวเองทำงาน
- ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง
- ขาดประสบการณ์
- เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า
- อาจจะทนทำ เพราะชอบ อิสระ แต่ไม่มี อิสรภาพ
จากประสบการณ์ส่วนที่ผม เป็น S มา 1 ปีได้ สิ่งที่เจอคือ
ข้อดี
- เงินที่ได้ทุกบาท เป็น ของเราหมด
- เหนื่อยก็พัก ง่วงก็นอน อยากเที่ยวก็ไป
- ไม่ต้องกลัวโดนไล่ออก
- ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของเราไม่ต้องมีใครมาบังคับ
- ถ้าดวงดี มีความสามารพอก็อาจขยายกิจการให้ใหญ่โตได้
ข้อเสีย
- ลงทุนสูง เสียงต่อการขาดทุน อันส่งผงให้เกิดการขาดทุนจนต้องปิดกิจการ
- มีอิสรภาพ แต่มีผลต่อการเงิน และลูกค้า หากเราหยุดบ่อย รายได้ก็หาย แถมลูกค้าอาจจะไปใช้บริการร้านอื่นได้
- ต้องทำงานหนักกว่า E เป็นเท่าตัว เพราะเราคือสาเหตุของรายได้ หาก เราไม่ทำรายได้ก็ไม่มี
สรุป S ผมก็ไม่ห้ามครับ ถ้าใจรักที่จะทำในกิจการของตัวเอง แต่บอกเลยว่าเหนื่อยและเสียงต่อการปิดกิจการสูง อาจจะดูเหมือนมี อิสระแต่อิสรภาพของเราก็มีผลต่อเงินและธุรกิจของเรา และหากวันใดเราเป็นอะไรมาทุกอย่างก็จบ นอกจากจะมีคนมาดูแลกิจการให้ต่อ
ด้านขวา ( มีทั้งเงินและเวลา มีอิสรภาพทางการเงินและเวลา )
3 B (Business Owner) เจ้าของธุรกิจ
- ใช้ระบบทำงานแทน
- ไม่ทำงานก็ยังมีรายได้
- มีหลายประเภท เช่น บริษัท,เจ้าของแฟรนไซน์ และ การตลาดแบบเครือข่าย (เป็นช่องทางที่จะเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีความเสี่ยงน้อย)
ซึ่ง B มีด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้
1 เจ้าของระบบ - ก็เจ้าของบริษัท เจ้าของกิจการ ซึ่ง 80 % ถูกวิจัยว่าเจ๊ง เนื่องจากสาเหตุดังนี้
1 เจ้าของระบบ - ก็เจ้าของบริษัท เจ้าของกิจการ ซึ่ง 80 % ถูกวิจัยว่าเจ๊ง เนื่องจากสาเหตุดังนี้
- ทุนน้อย แพ้ทุนคู่แข่ง
- ทำเลไม่ดี
- คู่แข่งเยอะ
- ขาดความเชี่ยวชาญ
- ประสบการณ์น้อย
- ประสิทธิภาพของลูกจ้างต่ำ
- บางธุรกิจต้องลงทุนสูง
- ความเสี่ยงสูง
2 ซื้อระบบ - ประเภทธุรกิจ แฟรนไซน์ เช่น seven
ธุรกิจแบบนี้มีข้อดีตรงความเสี่ยงต่ำ แต่จะต้องลงทุนสูงมาก
3 การตลาดแบบเครือข่าย - Network Marketing (เป็นช่องทางที่จะเป็น
เจ้าของกิจการ ลงทุนน้อยและมีความเสี่ยงต่ำ เป็นโอกาสสำหรับนักล่าฝัน)
- ทำเลไม่ดี
- คู่แข่งเยอะ
- ขาดความเชี่ยวชาญ
- ประสบการณ์น้อย
- ประสิทธิภาพของลูกจ้างต่ำ
- บางธุรกิจต้องลงทุนสูง
- ความเสี่ยงสูง
2 ซื้อระบบ - ประเภทธุรกิจ แฟรนไซน์ เช่น seven
ธุรกิจแบบนี้มีข้อดีตรงความเสี่ยงต่ำ แต่จะต้องลงทุนสูงมาก
3 การตลาดแบบเครือข่าย - Network Marketing (เป็นช่องทางที่จะเป็น
เจ้าของกิจการ ลงทุนน้อยและมีความเสี่ยงต่ำ เป็นโอกาสสำหรับนักล่าฝัน)
ขอดี ของ ธุรกิจเครือข่าย คือ
- รายได้สูงและมั่นคง
- เป็นมรดก
- มีอิสรภาพทางด้านการเงินและเวลา เพราะเราไม่ใช่สาเหตุของรายได้ถึงหยุดก็ยังมีรายได้เข้า
- มีสุขภาพที่แข่งแรง และมีเวลาให้กลับครอบครัว
- ลงทุนต่ำความเสียงน้อย
- ขายกิจการได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มและกิจการสามารถขยายได้ด้วยตัวเอง
- มีระบบและผู้นำที่มีประสบการมาก่อนค่อยแนะนำและเป็นแนวทาง
ข้อเสีย
- ต้องเปลี่ยนตัวเองอย่างมากในช่วงแลกสำหรับคนที่ไม่เคยทำ
- ต้องใช่ความอดทนสูงในช่วงแรก
- หากลมเลิกตั้งแต่ตนทุกอย่างก็ เป็น 0
สรุป Network Marketing ผมมองว่าเป็นธุรกิจที่น้าสนใจเพราะความเสียงในการลงทุนต่ำ และได้ผลตอบแทนที่สูง มีอิสรภาพทางเวลาและข้อดีอีกมากมาย แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
I (Investor) นักลงทุน
- ใช้เงินทำงานแทน
- มองผลตอบแทนจากการปันผล ดอกเบี้ย ค่าเช่น
แล้วที่นี้ ทุกคนคงอยากจะรู้แล้วใช้มัยว่า งาน อะไร ฝังไหนคืองานที่ผมจะเลือก แล้วทุกคนละถ้าเลือกได้อยากจะเลือกฝังไหนคิดไว้นะครับ ว่าคุณจะเลือกฝังไหน แล้วมาดูกันว่าเราจะคิดตรงกันหรือป่าว ถ้านั้นเชิญตามมาที่หัวข้อต่อไปเลยครับ